เมื่อคืนคุณฝันว่าอะไร ?


ตำราฮวงจุ้ย

ตำราฮวงจุ้ย

ตำราดูทำเลที่ตั้ง เป็นวิชาหนึ่งเดียวของประเทศจีนในการตรวจดูทำเลบ้านและทำเลสุสานโดยเฉพาะ  จากอิทธิพลของชาวจีน ได้ใช้ตำราประเภทนี้ติดต่อยาวนานถึง 2 พันกว่าปี จนถึงปัจจุบัน แทบจะไม่ผ่านการทดสอบจากเหล่านักวิทยาศาสตร์ซึ่งต่างกล่าวอ้างว่า ตำราฮวงจุ้ยเก่าแก่ล้าสมัย ไม่เหมาะกับยุควิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ตำราจึงค่อยๆเลือนหายไปปัจจุบันมีนักวิชาการจำนวนมากยอมรับว่าตำราฮวงจุ้ยกับวิทยาศาสตร์ต่างยืนอยู่ตรงข้ามกัน มีความรู้สึกว่าตำราฮวงจุ้ยเป็นแค่นามธรรมไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่เหมาะกับความเชื่อของชาวจีนในปัจจุบัน ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านวิทยาศาสตร์ และวิชาแขนงอื่นๆ สุดท้ายก็ไม่พ้นถูกขับออกจากความนึกคิดของชาวจีน

ถึงแม้พวกเราเกิดมาในยุคที่วิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ทุกสิ่งทุกอย่างในขอบเขตจักรวาลที่เราอาศัยอยู่ สามารถใช้เส้นทางของวิทยาศาสตร์มาค้นหา พิสูจน์และยืนยัน แต่อย่าลืมว่ามีสรรพสิ่งอีกมากมาย ทั้งในขอบเขตจักรวาลที่พวกเราอาศัยอยู่และนอกเขตจักกรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ยังรอการค้นหา พิสูจน์ แล้วนักวิทยาศาสตร์จะบอกว่าไม่มีนั้นยังเร็วเกินไป อย่าลืมว่านักวิทยาศาสตร์จะค้นพบสิ่งใด สิ่งนั้นมีการเกิดขึ้นก่อนมานานแล้วจึงไปค้นคว้า พิสูจน์มัน ยกตัวอย่างโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นล้านๆปี ในใจแกนกลางของโลกมีแรงดึงดูดมหาศาลที่ดึงดูดสรรพสิ่งที่อยู่ในหรือบนโลก ให้ยึดติดอยู่บนโลกได้  แรงดึงดูดนี้ได้สร้างสนามพลังงานทั่วโลกใบนี้ โดยมีพลังงานมากที่สุด แถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่เรียกว่า “สนามแม่เหล็ก” แต่บรรพชนชาวจีนโบราณได้ค้นพบสนามแม่เหล็กก่อนหน้านั้นประมาณ ห้า-หก พันปี และได้สร้างเข็มทิศอันแรกในโลกขึ้น ในสมัยปฐมกษัตริย์  หวังตี้ ราชาผู้ครองแผ่นดินจีน เมื่อห้า-หก พันปี ก่อนเป็นเข็มทิศแบบหยาบและเทอะทะ โดยขนานนามว่า “รถชี้ทิศใต้” เหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะเข็มชี้ไปทางทิศใต้ตลอด และเข็มทิศนี้เป็นหนึ่งในสี่สิ่งประดิษฐ์ อันมีชื่อของจีนโบราณ ซึ่งเป็นต้นแบบเข็มทิศในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่เพิ่งค้นพบสนามแม่เหล็กนี้มีเพียงแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น ยังมีสรรพสิ่งอีกมากที่ชนชาวจีนโบราณได้ค้นพบและมีการบันทึกในตำรามากมาย แต่ไม่ได้ผ่านการค้นคว้า ทดสอบและพิสูจน์ให้เป็นจริงตามวิธีการของเหล่านักวิทยาศาสตร์ ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องราวเหลวไหล งมงาย แล้วเราจะเชื่อว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่จริงหรือ ถ้าเราทำใจให้เป็นกลาง ถึงแม้เราจะไม่รู้ แต่เราก็อย่าปักใจเชื่อว่าไม่มี เข้าข่ายไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ตามอย่างคนโบราณที่เคยกล่าวไว้ว่า “สรรพสิ่งควรรับรู้เอาไว้ เหตุผลจะมีจริงหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร”  นั้นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างถ้าเราสามารถรู้ได้ ตัวเราก็รับรู้ไว้ แล้วใช้สติปัญญาของเราไปวิเคราะห์เอง แต่ตัวเราอย่าไปหลงเชื่ออย่างขาดสติ

ขอย้อนกลับไปกล่าวไปถึงเรื่องเข็มทิศ เข็มทิศอันแรกในโลกปัจจุบันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ ห้า-หกพันปีก่อน ในสมัยปฐมกษัตริย์ของจีนโบราณ นามหวังตี้ เมื่อครั้งยังรวบรวมชนเผ่าต่างๆ ให้รวมเป็นหนึ่งเดียว ได้เกิดการรบพุ่งกับหัวหน้าเผ่า ชื่อ ชือหยิว ทั้งสองทัพมารบติดพันกันที่ทุ่งราบใหญ่เมืองอี้โจว เป็นเวลานาน ได้เกิดหมอกหนาแน่นเป็นเวลาหลายวัน กองทัพของหวังตี้เกิดหลงทางไม่สามารถเดินทัพได้ หวังตี้จึงได้ประดิษฐ์เข็มทิศบอกทิศทางอันแรกขึ้น เรียกว่า “จือหนันชือ” หรือรถชี้ทิศ จึงสามารถนำทัพต่อไปจนรบชนะ ชือหยิวได้ และได้รวบรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียว และได้ตั้งตนเป็นปฐมกษัตริย์ ครองแผ่นดินจีนเป็นองค์แรกในประวัติศาสตร์ของจีน ต่อมาในสมัยโจวเหวินหวาง ผู้คิดค้นเขียนตำรา “โฮ้วเทียนปาชั่ว” และ “อี้จิง” ซึ่งตำรา 2 เล่มนี้เป็นตำราต้นแบบของวิชาฮวงจุ้ยในปัจจุบันได้อาศัยต้นแบบและหลักการของรถชี้ทิศ มาดัดแปลงแก้ไขใหม่ เพราะของเดิมใหญ่โต เทอะทะ ซึ่งของเดิมเข็มชี้ทิศตั้งอยู่บนรถม้า และมีม้าลากรถชี้ทิศนี้เปลี่ยนแปลงให้รูปแบบเล็กลงกว่าเดิมมาก สามารถพกติดตัวไปได้ เรียกว่า “จื่อหนันจีน”  เข็มชี้ทิศใต้ เพราะปลายหัวแหลมของเข็มนี้ชี้ไปทางทิศใต้ตลอด ส่วนอีกด้านหนึ่งชี้ไปทางทิศเหนือ (นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ดัดแปลงเป็นหัวทางแหลมชี้ไปทางทิศเหนือ อีกด้านชี้ไปทางทิศใต้ แล้วนำมากล่าวอ้างว่าเข็มทิศนี้ นักวิทยาศาสตร์ทางตะวันตกเป็นผู้คิดขึ้น ) เข็มทิศที่โจวเหวินหวาง ผลิตขึ้น ใส่ไว้ในแผ่นไม่สี่เหลี่ยมจัตุรัสต่อมาภายหลังได้สลักเอา “โฮ้วเทียนปาซัว” และ “หลิวซือซื่อขั้ว” ของตำรา “อี้จิง”ไว้บนแผ่นไม้สี่เหลี่ยมที่ฝังเข็มทิศไว้ซึ่งเป็นเข็มทิศใช้ในการดูทิศทาง ทำเลที่ตั้ง เป็นเข็มทิศประจะตำรา “คำอื้อซู่” ตำราฮวงจุ้ย เรียกเข็มทิศชนิดนี้ว่า “โหลจินฝาน” (รายละเอียดของเข็มทิศนี้ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะนำมาเล่าสู่กันฟัง)