เมื่อคืนคุณฝันว่าอะไร ?


อาวุธลับ 5 อย่างในทางฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 2

ฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 2
ฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 2

อาวุธลับ 5 อย่างในทางฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 2

         สวัสดีครับท่านผู้อ่าน FOOD UPDATE ทุกท่าน เราพบกันฉบับนี้เป็นฉบับที่ 3  แล้วครับ 2 ฉบับแรกผมได้กล่าวถึงทำเลที่ตั้งและอาวุธลับทางฮวงจุ้ยไปแล้ว 3 อย่าง คือ รูป , รส และกลิ่นฉบับนี้เราจะมาว่ากันถึงอาวุธอีก 2 อย่างที่เหลือกันนะครับ ที่จะนำมาแนะนำกันเป็นอย่างแรกกันวันนี้ก็คือ สียง หลายท่านอาจจะงงว่าเสียงนั้นมาเกี่ยวข้องได้อย่างไรกับร้านอาหาร ในทางฮวงจุ้ยนั้นเสียงมีส่วนไม่น้อยที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ทุกท่านรู้สึกผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อเมื่อยล้าจากการทำงานมาแล้วทั้งวัน เขียนมาถึงตรงนี้หลายท่านคงจะพอเดากันได้บ้างแล้วครับคือเพลงที่เปิดในร้านอาหารของท่าน เพลงนั้นมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารมีอยู่หลายแห่งครับที่เปิดร้านอาหารขึ้นมาเพื่อขายเสียงเพลงหรือเพื่อความบันเทิงมากกว่าขายอาหารและในทางกลับกันครับก็มีร้านอาหารอยู่หลายแห่งที่ขายรวชาติของอาหารมากกว่าขายเสียงเพลงหรือความบันเทิง หากเราจะอธิบายตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วนั้น ผมคิดว่าท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะเข้าใจได้ยาก ผมจะขออธิบายในเชิงวิชาการจะดีกว่าเพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจและเข้าให้ถึงเนื้อหาและสุดท้ายคือ สามารถนำไปใช้ได้จริงครับในกรสังเกตพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้บริโภคนั้น หากเราตั้งสมการเชิงเปรียบเทียบเอาแบบง่าย ๆ เพื่อจับกระแสความต้องการของผู้บริโภคหรือจับทิศทางของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายของเราแล้วนั้นจะพบว่าการสังเกตจากความบันเทิงที่ลูกค้าชอบย่อมจะง่ายกว่าสังเกตจากรสชาติที่ลูกค้าถูกใจในการรับประทานอาจเป็นเพราะพฤติกรรมของมนุษย์ที่แตกต่างกันเป็นได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวผัดจานเดียว ลูกค้าก็มีความคิดเห็นต่างกันจากผลลัพธ์ที่ได้รับ เช่น บางคนบอกว่า เค็มไป หวานไป การจะทำให้ การจะทำให้ถูกใจลูกค้าทุกคนนั้นเป็นเรื่องยาก ร้านอาหารจึงจำเป็นจะต้องมีเครื่องปรุงเอาไว้บริการ แต่ในทางกลับกัน เพลงหนึ่งเพลงของศิลปินหนึ่งคน นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องปรุง

คนที่ชอบเพลงเดียวย่อมมีเหตุผลที่เหมือนกันหรือฟังแล้วเพราะชอบ นี่คือสาเหตุที่ร้านบางร้านที่ขายความบันเทิงทำไมถึงอยู่ได้ ท่านผู้อ่านลองนึกภาพตามผมดูนะครับว่าร้านกาแฟสตาร์บัค ทำไมถึงผลิต CD พลงออกมาขายได้ร้านอาหารจีนก็ควรเปิดเพลงบรรเลงจีนเพื่อสร้างบรรยากาศแบบจีนๆ ให้ลูกค้าเกิดอารมณ์คล้อยตาม ร้านอาหารญี่ปุ่นก็ควรเปิดเพลงบรรเลงแบบญี่ปุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศในหารบริโภคให้กับลูกค้า แต่ในปัจจุบันนี้มีอยู่ไม่น้อยครับที่ทำออกมาแล้วเจ้าของร้านไม่ค่อยใส่ใจ  ผมมักจะเจอได้บ่อยในห้างสรรพสินค้าพอเจ้าของร้านไม่อยู่พนักงานก็เปิดเพลงตามใจตัวเองซึ่งส่วนมากจะเป็นเพลงอกหักสไตล์วัยรุ่นหรือสมัยนิมยมที่มีเนื้อหากระชากอารมณ์อย่างสุดขั้ว เนื้อหาของเพลงนั้นโอดครวญเหมือนจะขาดใจตาย ผมนั่นทานอาหารไป ฟังเพลงไปก็อยากตายตามครับ ผมเขียนมาถึงตรงนี้เพื่ออยากให้ท่านเจ้าของร้านทุกท่านใส่ใจในเรื่องของเพลงซึ่งถือว่าเป็นอาวุธอีกอย่างงหนึ่งนะครับในทางฮวงจุ้ยอย่าได้มองข้ามกันไป และแถมท้าย อาวุธที่มันจะมาควบคู่ไปกับสียงหรือเพลงนั้นคือ สัมผัส ทั้ง 2 อย่างนี้จะต้องไปคู่กันครับ สัมผัสคือ บริการ หรือความสะดวกสบายที่เรา ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่เราจะได้รับจากการบริการ สัมผัสในทางฮวงจุ้ยนั้นเป็นอย่างไร เปรียบเทียบให้ง่ายต่อการยกตัวอย่างคือ บรรยากาศของร้าน เช่น ร้านอาหารไทยเดิม ก็ควรมีการตกแต่งแบบไทยหรือการตกแต่งแบบต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ หรือสัมผัสในทางฮวงจุ้ยเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ที่มาใช้บริการเกิดความสุขใจและประทับใจที่สุดครับ

อาวุธในทางฮวงจุ้ยชิ้นสุดท้ายที่ผมให้ท่านผู้อ่านไปนั้นในปัจจุบันค่อนข้างมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคสูงครับผมอยากให้ท่านผู้ประกอบการ หรือผู้ที่คิดประกอบอาชีพเกี่ยวกับร้านอาหารใส่ใจในรายละเอียดดังที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ให้มากขึ้นกว่เดิมอีกนิดนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างอาวุธในทางฮวงจุ้ยทั้ง 4 อย่าง ที่ผมแนะนำไป ผมหวังว่าคงพอที่จะช่วยท่านให้ได้ความรู้ความเข้าใจในแง่มุมของฮวงจุ้ยวิทยาได้บ้างนะครับ ใรฉบับหน้าเราจะมาว่ากันในเรื่องของเวลาในการประกอบกิจการร้านอาหารตามหลักของฮวงจุ้ยกันครับ สำหรับฉบับนี้คงต้องพอแต่นี้ก่อน สวัสดีครับ