เรื่องจริงที่ต้องอ่าน…ล้มเพราะฮวงจุ้ย กลับฟื้นด้วยฮวงจุ้ย เป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น ประมาณต้นเดือนมกราคม 2550
ตอนที่พบท่านเจ้าของกิจการขณะนั้น กำลังทุกข์หนักธุรกิจประสบปัญหารุนแรง ไม่มีงานตั้งแต่เชิญซินแสมาจัดฮวงจุ้ยโครงการต่างๆ ที่ติดต่อไว้เงียบหาย ที่ลงทุนไปติดขัดมีปัญหา เก็บเงินไม่ได้
เจ้าของเริ่มธุรกิจเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 โดยเช่าอาคารสำนักงานเป็นออฟฟิศ และจัดพื้นที่ใช้สอยเอง ด้วยมีความรู้ฮวงจุ้ยที่เรียนมา เจ้าของเป็นวิศวกร หลังเปิดดำเนินการได้ประมาณ 2 เดือน แนวโน้มธุรกิจที่ร่วมทุนกัน มีงานติดต่อเข้ามามาก ตัวเขาศรัทธาและเชื่อในวิชาฮวงจุ้ย จึงต้องการจัดฮวงจุ้ยให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าและมั่นคง จึงเชิญซินแสที่รู้จักกันมาจัดเมื่อประมาณมีนาคม 49 โดยลักษณะออฟฟิศก่อนซินแสจัด มีลักษณะดังนี้
หลังจากเปลี่ยนแปลงตามคำแนะนำ ก็เริ่มมีปัญหาทีละน้อย การพูดคุยทั้งกับหุ้นส่วนและรวมไปถึงพนักงานต่างๆ ก็สื่อสารกันไม่เข้าใจ มีการขัดแย้งตลอด
ในเดือนมีนา 49 ประสบกับปัญหาพนักงานโกง และรับงานกันเองไม่เข้าบริษัท ได้ติดต่อสอบถามไปยังซินแส แต่คำตอบที่ได้รับ ท่านได้แจ้งว่าเมื่อจัดฮวงจุ้ยแล้วสิ่งที่ไม่ดีอยู่กับเราไม่ได้ ซึ่งเขาก็ได้แต่อึ้งเงียบ ด้วยเขาคิดว่าจะได้รับคำแนะนำที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับเขาบ้าง และด้วยงานที่ทำ มักมีการประชุมกับลูกค้า และบางโปรเจคเป็นชาวต่างชาติ ต้องการให้เป็นสัดส่วน จึงมีการขยับขยาย เช่าห้องด้านข้างเพิ่ม 1 ห้อง ไว้สำหรับประชุมวางแผนงาน ดังนั้นในเดือนเมษายนปี 49 ตัวผู้บริหารไม่ชอบที่ตัวเองต้องนั่งหน้าประตู จึงโยกตัวเองไปยังห้องที่เช่าใหม่ แต่ก่อนจะย้ายเข้าก็ได้สอบถามซินแสว่า ย้ายไปได้หรือไม่หากต้องการทำเช่นนั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่าได้ และกำหนดจุดให้นั่งดังภาพ
หลังจากย้ายเข้าไปสถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ทั้งที่ในขณะนั้นสภาพเศรษฐกิจในปี 49 ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่งานที่ทำทุกโปรเจคกลับมีปัญหาทำให้เก็บเงินไม่ได้ ปัญหาการเงินเริ่มคุกคามหนักขึ้นไปอีก
เจ้าตัวเล่าว่า ด้วยเงินก้อนสุดท้ายที่มี เขาตัดสินใจที่จะเชิญซินแสมาอีกครั้ง เพราะด้วยมีความเชื่อในชื่อเสียงอันโด่งดัง และความสามารถพิเศษของตัวซินแส พอเดือนพฤษภาคม ปี 49 ซินแสมาดูอีกครั้ง โดยยังคงนั่งตามตำแหน่งเดิมที่ให้คำปรึกษาไว้ในครั้งแรกที่จะย้ายมา และได้เพิ่มเติมสิ่งที่ต้องแก้ฮวงจุ้ยหลายจุดตามคำแนะนำ
เขาเล่าว่า หลังจากจัดก็ประสบกับปัญหาเดิมงานไม่มี เงินก็ไม่มี จ่ายออกอย่างเดียว พอเดือนกรกฎาคม ลูกน้องก็โกงอีก เอางานไปทำเองไม่เข้าบริษัท ถึงเวลานี้เจ้าตัวบอกว่าการเงินไม่ต้องพูดถึง หยิบยืมไปทั่วจนติดลบมานานแล้ว ขนาดว่าเจ้าหนี้ตามอุ้มกันเลยและเล่าว่าตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 ถึงต้นมกราคม 2550 ไม่เคยมีงานเข้ามาเลย แม้แต่งานเดียว ทุกอย่างเงียบสนิทหมด ท้อมากไม่เข้ามาในบริษัทอีกเลย เตรียมปิดกิจการเครียดหนัก ทานข้าวไม่ลง ผอมจนเหมือนคนติดยา (ถ้าคุณเห็นสภาพเองคุณจะเข้าใจ)
หลังจากที่ปัญหาแก้ไม่ตก จนไม่สนใจที่จะเข้ามายุ่งในบริษัท จากห้องที่เช่าไว้ 2 ห้องก็ลดเหลือ 1 ห้องในเดือนธันวาคม 2549 แล้วย้ายของจากห้องที่ 1 มาไว้ในห้อง คราวนี้จัดการกันเองโดยไม่เชิญซินแสมา เพราะไม่มีเงินแล้ว เขาเล่าด้วยน้ำเสียงที่สุดบรรยาย
เมื่อเรามาตรวจพื้นที่ประมาณต้นเดือนมกราคม ปี 2550 พบว่ากระแสชี่ในห้องมีการติดขัดสับสน สภาพของพื้นที่มีความแออัด ขาดการหมุนเวียนของพลัง พลังที่นี่นิ่งมากต้องทำการปรับสมดุล และจัดพื้นที่ใหม่ เพื่อให้พลังงานชี่ในห้องฟื้นตัว และพบว่าภายในออฟฟิศ มีห้องน้ำตั้งอยู่ ทั้งๆ ที่อาคารสำนักงานนี้มีห้องน้ำส่วนกลางอยู๋แล้ว ส่วนภายในห้องน้ำพบว่ามี เสื้อผ้า ข้าวของต่างๆ เต็มไปหมด ซึ่งโชคดีที่เขาเล่าว่าไม่เคยใช้ แต่ก็ยังมีผลเสีย เพราะตัวห้องน้ำเองโดยสภาพเองจะทำให้เกิดสภาพชี่หยินออกมา จึงไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในห้องนี้เลย มันสามารถกก่อกวนฮวงจุ้ยให้วุ่นวายได้ไม่น้อยทีเดียว
ตำแหน่งของผู้บริหาร ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีพลังอำนาจ ทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ธุรกิจได้ ทำให้เกิดความเสียหายขาดผู้สนับสนุน ขาดโอกาสจุดหล่อเลี้ยงธุรกิจ อยู่ในตำแหน่งสูญเสีย ขาดพลังโอบอุ้มกลายเป็นจุดเปราะ ทำให้ยิ่งทำให้ประสบปัญหาหนักขึ้น อีกทั้งมีโต๊ะทำงานที่ไม่ใช้มากเกินไป จึงต้องทำการปรับสภาพพื้นที่ เพื่อช่วยขยายชี่ที่อุดตันภายในห้อง ดังตัวอย่าง
เราช่วยกันจัดห้องในวันนั้นเลยเพราะรอช้าไม่ได้แล้ว กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่เราต้องเก็บโต๊ะที่ไม่ใช้ไปไว้ที่มุมห้อง คงเฉพาะที่ใช้จริง ตัวผู้บริหารจัดการเราให้อยู๋ในตำแหน่งที่ส่งเสริมอำนาจวาสนาบารมี เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ธุรกิจ และมีผู้สนับสนุน ส่วนตัวเขาให้มีตำแหน่งแห่งที่ในการทำงาน ช่วยเหลือค้ำจุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนระบบการเงิน ให้ตั้งในตำแหน่งที่โอบอุ้มช่วยส่งเสริมบริษัท ควบคุมการไหลออก เพื่อหยุดปัญหาและสร้างความเข้มแข็ง
ห้องน้ำก็ให้จัดการให้เรียบร้อย เสื้อผ้าข้าวของต่างๆ ให้นำออกไปให้หมด แม้ไม่ใช้ก็ต้องรักษาให้เป็นปกติ ห้ามเสียและได้ทำการแก้ไขทางฮวงจุ้ยไว้ ห้ามใช้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหยินที่ควบคุมไว้ถูกกระตุ้นออกมา จะทำลายสภาพชี่ที่ดีในห้องที่จัดฮวงจุ้ยทั้งระบบทันที หลังจากช่วยกันปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ประมาณ 1 อาทิตย์ เขาได้เล่าว่างานที่เคยพูดคุยกันไว้ กลับมาติดต่อกัน ธุรกิจเริ่มมีการขยับตัว และจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีเมตตาสูง ทำให้เขามีกำลังใจ ซึ่งตอนนี้เขาดีขึ้น และเดินไปข้างหน้าได้ต่อไป
แล้วปัญหาของเขาเกิดจากอะไร
ในตอนเริ่มธุรกิจ เขาจัดห้องเอง และในช่วง 2 เดือนแรกงานไปได้สวย ถึงขนาดมีโครงการขยายทำห้องผู้บริหารและห้องประชุมให้เป็นสัดส่วน แต่เมื่อจัดฮวงจุ้ยจากดีกลายเป็นเสีย ซึ่งครั้งแรกเป็นการจัดที่ดีแล้ว ในรูปที่จัดตามซินแส การที่ผู้บริหารหลักไปนั่งหน้าห้อง ผิดหลักการและหลักฮวงจุ้ย ทำให้ไม่สามารถควบคุมกิจการและลูกน้องได้ ลูกน้องทำอะไรเราไม่รู้ แต่จะรู้ตัวเมื่อเกิดความเสียหายแล้ว การที่ย้ายไปนั่งอีกห้อง แต่แทนที่จะดีขึ้นกลับไม่ดีขึ้น เพราะนอกจากนั่งในตำแหน่งที่ไม่ส่งเสริมอำนาจผู้บริหาร ไม่มีพลังส่ง ซ้ำเป็นจุดตายยิ่งเสียหายมากขึ้น เพราะหัวมังกรไปหางจะอยู่ได้อย่างไร องค์กรจะประสบความสำเร็จหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับตัวผู้นำ เมื่อผู้นำไม่สามารถนำพาไปข้างหน้าได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ชะงักงัน
ในกรณีนี้ เราปรับชี่ที่นิ่งสงบมีการขยายตัว ให้พลังชี่ผสานเข้ากับฮวงจุ้ยชักนำสิ่งที่ดีมาให้กับธุรกิจ และที่เขาได้รับผลเร็ว เพราะเขาเป็นคนสร้างบุญกุศลเป็นประจำ ฮวงจุ้ยเองก็มีจิตวิญญาณเฉพาะตัว ที่ตอบสนองต่อบุคคลเช่นกัน
ฮวงจุ้ยไม่ใช่แฮร์รี่พ็อตเตอร์ ที่เสกให้คุณได้ดุจเวทย์มนต์ การจัดฮวงจุ้ยให้ดียากกว่าจัดให้เจ๊ง คุณทำธุรกิจต้องใช้ความรู้ความสามารถ แล้วฮวงจุ้ยจะเป็นเหมือนเพื่อนที่จะคอยช่วยเหลือคุณ เดินทางร่วมไปกับคุณ ชักนำสิ่งที่ดีมาให้คุณ และพร้อมปกป้องคุณจากสัญญาณอันตรายที่มองไม่เห็น
