เมื่อคืนคุณฝันว่าอะไร ?


อาวุธลับ 5 อย่างในทางฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 1

ฮวงจุ้ยร้านอาหาร ตอนที่ 1
ฮวงจุ้ยร้านอาหาร ตอนที่ 1

อาวุธลับ 5 อย่างในทางฮวงจุ้ยของร้านอาหาร ตอนที่ 1

         สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านครับพบกันอีกเช่นเคยในนิตยสาร  FOOD UPDATE คราวที่แล้วเราพูดกันถึงเรื่องของอาวุธ 5 อย่างที่เราสามารถนำมาใช้ได้ในร้านอาหาร เราลองมาทบทวนกันอีกครั้งจะดีมั๊ยครับว่าอาวุธ 5  อย่างนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อว่าท่านผู้อ่านท่านใด พึ่งเปิดมาเจอจะได้ไม่งงและสามารถตามได้ทันครับ อาวุธร้ายแรง 5 อย่างในทางฮวงจุ้ยร้านอาหารของผมนั้นประกอบไปด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ผัสสะ 5 นั่นเองครับ ฉบับที่ผ่านมาผมได้เขียนถึง ในส่วนของรูป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขออนุญาตหยิบอาวุธชิ้นที่สองนี้มาอธิบายให้ท่านผู้อ่านได้ฟังต่อไปเลยนะครับ  อาวุธชิ้นสำคัญถัดมาคือ รส ครับ อธิบายขยายความเพิ่มเติมได้ว่า รสชาตินั้นเป็นส่วนสำคัญ

ในการสร้างร้านอาหารนั้นมีอยู่หลายแห่งครับที่ไม่สามารถขายบรรยากาศหรือขายความสะดวกรวดเร็วได้ เนื่องจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นเพราะทำเลที่ตั้งนั้นไม่เอื้ออำนวย ไม่สามารถที่จะโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารู้จักร้านของเราได้ พูดโดยรวมคือ ทำเลที่ตั้งไม่ดีนั่นเองครับ แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วนั้นไม่เป็นปัญหาครับเรามีอาวุธที่สามารถผลักดันให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ รส คือ อาวุธที่ค่อนข้างทรงอานุภพในทางฮวงจุ้ยแต่จะเห็นผลค่อนข้างช้า เขียนมาถึงตรงนี้หลายท่านอาจนึกภาพไม่ค่อยออกให้ลองหลับตานึกถึงร้านอาหารแถบเยาวราชที่อยู่ในตึกในซอยแคบๆ แต่มีผู้คนไปรอใช้บริการทางด้านอาหารเมื่อสอบถามจากผู้ชิมลื้มลองแล้วได้ใจความว่า เป็นเพราะรสชาติอร่อยถูกปากไม่แปลกเลยครับท่านผู้อ่านทั้งหลายที่ร้านเหล่านี้จะยังคงขายดีและสามารถตั้งอยู่ได้โดยมีเพียงรสชาติเป็นปัจจัยสำคัญให้คนมานั่งรับประทานทั้งที่เรื่องความสะอาดนั้นแทบไม่มีและแถมบางครั้งร้านทำเลไม่ดีหาก็ยาก เดินตั้งนานกว่าจะเจอร้าน ยกตัวอย่างเช่น โจ๊กที่โรงหนังปริ๊นตรงบางรัก โจ๊กร้านนี้มีคนแวะเวียนมาใช้บริการด้านความอร่อยไม่ขาดครับ ที่ผมเกริ่นเอาไว้ในตอนแรกนั้นอาวุธที่มีชื่อเรียกว่ารสชาตินั้นร้ายแรง แต่เห็นผลช้านั้นก็เป็นเพราะจะต้องอาศัยการสะสมชื่อสียงและระยะเวลาที่ยาวนาน

ในการทำการค้าเพื่อให้เป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับกันในวงการนักชิมทั้งหลายครับ แม้กระทั่งตัวผมเองยังวนเวียนไปใช้บริการอยู่บ่อยๆ นี่คือตัวอย่างของการขายที่รสชาติจริง ๆ ไม่เน้นในด้านบรรยากาศหรือในด้านอื่นๆ เลย อาวุธชิ้นต่อมากันเลยดีกว่าครับ นั่นก็คือ กลิ่น ในที่นี้คืออาวุธในทางฮวงจุ้ยที่ปัจจุบันมีการใช้อยู่ทั่วไป ทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าริมถนนรวมไปถึง ภัตตาคารใหญ่ๆ ผมอยากให้ท่านผู้อ่าน ลองหลับตานึกถึงร้านกาแฟ สตาร์บัค หรือร้านขนมบัน ตามห้างสรรพสินค้าที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวน ให้คนผ่านไปมาได้เข้าไปลิ้มลองครับบางทีเพียงเพราะกลิ่นที่หอมก็อาจจะทำให้รสชาติของอาหารนั้นดีขึ้นได้โดยปริยายครับ มีอยู่บ่อยครับที่ผมเคยทดลองโดยการเอานิ้วมืออุดจมูกแล้วกัดกินขนม โดยไม่คำนึงถึงกลิ่น บ่อยครั้งผลลัพธ์ที่ได้ทางด้านรสชาตินั้นค่อนข้างแย่ ผมเลยสรุปได้ว่าร้านค้าประเภทนี้ใช้กลิ่นเป็นอาวุธสำคัญในการเชิญชวนให้คนเดินตามกลิ่นมาเพื่อใช้บริการครับ ในการคิดที่จะใช้กลิ่นเป็นอาวุธนั้นเราจะต้องคัดเลือกทำเลหรือชัยภูมิของร้านค้ากันซักนิดครับ ควรจะเป็นทำเลที่มีคนหมุนเวียนไปมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นป้ายรถเมล์ หรือห้างสรรพสินค้า ล้วนใช้อาวุธประเภทนี้ได้ครับ

เขียนมาถึงตรงนี้แล้วท่านผู้อ่านคงพอเข้าใจในหลักของความสำคัญของทางด้านต่างในแต่ละแบบกันมากขั้นนะครับในฉบับหน้าเราจะมาต่อกันให้จบ สำหรับอาวุธในทางด้านฮวงจุ้ยอีกสองอย่างที่เหลือครับ ก่อนจากกัน ฉบับนี้ผมอยากให้ท่านลองอ่านทบทวนดูนะครับว่าร้านอาหารของท่านยังขาดอะไรหรือยังใช้อะไรได้ไม่เต็มที่ หรือว่าท่านใช้เต็มที่แล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ติดขัดประการใดส่งคำถามของท่านมาได้นะครับที่เว็บไซด์ของผมในด้านบน ผมยินดีจะตอบให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายครับสำหรับฉบับนี้คงพอแค่นี้ก่อน สวัสดีครับ

ฮวงจุ้ยร้านอาหาร ตอนที่ 1